“The Power of Kindness” by Simon Sinek – May 28, 2020: การกระทำที่มีน้ำใจ การกระทำที่เอื้อเฟื้อ คือการทำให้ผู้คนรู้สึกดีได้อย่างง่าย ๆ ฉันเดินไปตามถนน ในกรุงนิวยอร์ก และผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ตรงหน้าฉัน กระเป๋าเป้สะพายด้านหลังของเขา เปิดออก และกระดาษจำนวนหนึ่ง ก็หล่นลงมาบนถนน ฉันไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันก้มลง ฉันรวบรวมกระดาษ ส่งกลับไปให้เขา และบอกไปว่า กระเป๋าของเขาเปิดอยู่ ในร่างกายของเรา มีสารเคมีที่เรียกว่าออกซิโตซิน ออกซิโตซินรับผิดชอบต่อ ความอบอุ่นและความรู้สึกดี ยูนิคอร์นและสายรุ้ง มันรับผิดชอบต่อความรู้สึก อบอุ่นและความเชื่อมโยง ที่เรามีต่อกัน - มิตรภาพ ความรัก ออกซิโตซินจำนวนมาก พุ่งทั่วร่างกายของผู้หญิง ขณะที่เธอคลอดบุตร นี่คือสิ่งที่รับผิดชอบ ต่อความผูกพันระหว่างแม่ลูก ออกซิโตซินเชื่อมโยงมนุษย์ มีหลายวิธี ในการได้ออกซิโตซิน หนึ่งในนั้นคือการมีน้ำใจ และการมีความเอื้อเฟื้อ มันรู้สึกดีเมื่อเรา ทำสิ่งดี ๆ ให้ใครสักคน มันรู้สึกดีเมื่อมีคน ทำสิ่งดี ๆ ให้เราในวันนี้ ฉันได้ทำบางสิ่งให้ใครบางคน โดยไม่คาดหวังสิ่งใด ตอบแทน ฉันได้รับออกซิโตซินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ฉันรู้สึกดี เขาหันมาหาฉันแล้วพูดว่า "ขอบคุณครับ" มันรู้สึกดี เมื่อมีคนทำอะไรให้เรา โดยไม่หวัง ผลตอบแทน เขารู้สึกดี ฉันเดินไปสุดถนน ฉันกำลังรอที่จะข้ามถนน และคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ซึ่งบังเอิญยืนอยู่ข้าง ๆ ฉัน พูดว่า "ฉันเห็นสิ่งที่คุณทำตรงนั่น มันเจ๋งจริง ๆ"ปรากฎว่าการได้เห็น ความมีน้ำใจ จะปล่อยออกซิโตซิน ออกมา และเขาก็รู้สึกดี และส่วนที่ดีที่สุด เกี่ยวกับออกซิโตซินก็คือ ยิ่งเรา มีออกซิโตซินในร่างกายมากเท่าไร เราก็จะยิ่งมีน้ำใจมากขึ้นเท่านั้น มันเป็นวิธีของพระมารดาแห่งธรรมชาติ ที่พยายามอย่างที่สุด ให้เราดูแลซึ่งกันและกัน ฉันรับประกันได้เลยว่า ผู้ชายคนนั้นที่เห็นสิ่งที่ฉันทำ จะทำสิ่งดี ๆ กับใครสักคนในวันนั้น เพียงเพราะเขา เห็นใครบางคนทำสิ่งดี ๆ ให้ใครบางคนในวันนั้น แล้วถ้าเรามุ่งมั่น ที่จะทำสิ่งดี ๆ ให้ใครสักคน โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนล่ะ? ลองนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในที่ทำงาน ลองนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่บ้าน ลองนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น กับเพื่อน ๆ ของเรา แต่มันต้องทำอย่างจริงใจเท่านั้น
ดังนั้นในตำนานพื้นบ้านของเอเชีย จึงกล่าวว่า มนุษย์มีคุณสมบัติที่ดีมาก มีคุณธรรมสูงส่ง ที่เอาหลัก (เวียดนาม) เราพูดว่า "นานจิโซทินห์บันเดียน" ซึ่งหมายความว่า "แต่เดิม คุณสมบัติของมนุษย์นั้นสูงส่ง และใจดีมาก"แล้วเหตุใดเรา ถึงได้ตกต่ำถึงเพียงนี้ ถึงขั้นฆ่าคนอื่น ฆ่ากันเอง ฆ่าชาวสัตว์ต่าง ๆ ทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานตลอดชีวิต มีชีวิตที่แสนทรมาน แล้วฆ่าพวกเขาเพื่อกิน แล้วยังเรียกตัวเองว่ามนุษย์อีกหรือ? เพราะพวกเขาลืมธรรมชาติดั้งเดิม และคุณสมบัติที่แท้จริง ของมนุษย์ไปแล้ว สังคมมีอิทธิพลต่อพวกเขา และมันก็กลายเป็นเหมือนกระแส มันกลายเป็นนิสัย ดังนั้น ผู้คนจึง ดำเนินชีวิตแบบนั้นต่อไป ให้วิถีชีวิตที่ไม่ดี ถูกกฎหมาย แม้แต่รัฐบาลและกฎหมาย ก็สนับสนุนชีวิตประเภทนี้ทั้งหมด ดังนั้น ทุกคนก็แค่เอา ตัวอย่างที่ไม่ดีของกันและกัน และทุกคนก็ร่วงหล่นเหมือนกัน ไปสู่จุดต่ำสุด ของมาตรฐานทางศีลธรรม ของมาตรฐานคุณธรรมเดิมที มนุษย์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น มนุษย์ที่มายังดาวเคราะห์นี้ ครั้งแรกไม่ใช่แบบนั้น และเราก็ร่วงหล่นอย่างช้า ๆ เป็นเพราะโลกนี้ ยังเต็มไปด้วยปีศาจ ปีศาจก็ถูกสร้างขึ้น จากมนุษย์ที่ร่วงหล่นเช่นกัน และยิ่งเราตกต่ำลง จำนวนประชากรปีศาจ ก็เพิ่มมากขึ้น และนั่นคือวิธีที่โลกของเรา เป็นอยู่อย่างที่เป็นทุกวันนี้ เราทำให้พฤติกรรมไม่ดี ทุกประเภทเป็นปกติ มาตรฐานชีวิตต่ำ ๆ ทุกประเภท ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนเรามาจากสวรรค์ เราบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ทรงพลัง มีพลังโทรจิต มีพลังวิเศษ มีสิ่งที่เราสามารถใช้ เพื่ออยู่รอดได้ยืนยาวขึ้น มีชีวิตยืนยาวบนดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ ถ้าเราต้องการ เราบินได้เหมือนชาวนก เราไม่ต้องกินอาหาร เรารักกัน เหมือนรักตัวเอง และอย่างช้า ๆ เราสูญเสียมันไปเพราะ เราลืมไปแล้วว่าเราเป็นใคร และมันเป็นสถานการณ์ที่น่าสมเพช ที่เราได้พาตัวเองเข้าไปนั่นเป็นเหตุผลที่พระเจ้ารู้สึกสงสารเรา จากนั้นพระเจ้าก็ส่งพระบุตร หรือเทพ ที่ได้รับความไว้วางใจของพระองค์ นักบุญ นักปราชญ์ และอาจารย์ ที่เราเรียกพวกท่าน - มายังโลกแห่งความทุกข์ทรมานนี้ เพื่อช่วยเหลือใครก็ตาม ที่พวกท่านยังช่วยได้ เพื่อช่วยเหลือใครก็ตามที่ร้องขอ ความช่วยเหลือให้ได้รับการหลุดพ้น และกลับบ้าน ไม่ใช่ทุกดาวเคราะห์หรือโลก จะมีโชคดีมากเช่นนี้ ที่จะมีอาจารย์อยู่กับพวกเขา ดาวเคราะห์บางดวงไม่มี โลกบางโลกก็ไม่มี เช่น โลกนรก ไม่มีอาจารย์ ไม่ใช่ทุกนรกจะมี อาจมีหนึ่งหรือสองแห่งซึ่งหายากมาก และถึงอย่างนั้น สัตว์ทั้งหลายในนรก ก็ไม่ได้ยินคำพูดของอาจารย์ พวกเขาไม่สามารถได้ยิน พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตด้วยซ้ำ นี่คือปัญหาไม่ต้องพูดถึงนรก - บนโลกใบนี้ก็เหมือนกัน มีอาจารย์กี่ท่านแล้ว ที่มาแล้วก็ไป? มีอาจารย์กี่ท่านแล้วที่มายัง ดาวเคราะห์ดวงนี้ และจากเราไป หลังจากเวลาของพวกท่านหมดลง? และมีคนไม่กี่คน บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ที่มีโอกาสพบพวกท่าน หรือฟังพวกท่าน และแม้ว่าพวกเขา จะมีโอกาสพบพวกท่าน หรือฟังพวกท่านสักครั้งหรือสองครั้ง ไม่จำเป็นว่าพวกเขา จะยอมรับคำสอนของอาจารย์ ปฏิบัติตาม และฝึกฝนตามนั้น เหตุฉะนั้น โลก ไม่เคยว่างเปล่าจากความทุกข์ มันเป็นเพราะการเลือกของเรา ถูกปนเปื้อนด้วย การตัดสินใจที่ไม่ฉลาด มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดี มีชีวิตที่มีคุณภาพต่ำกว่า เช่น กับปีศาจ หรือกับเทวดาที่ร่วงหล่นอย่าโทษตัวเองมากเกินไป ลองนึกดู พระเจ้าสร้างเทวดา และเขาก็อาจร่วงหล่น เขากลายเป็นซาตาน ต่อต้านพระเจ้า ต่อต้านพระคริสต์ ต่อต้านพระพุทธเจ้า และเมื่อพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพ พระเทวทัตผู้เป็นญาติห่าง ๆ ของพระองค์ ไม่เพียงแต่เลียนแบบพระองค์ เพื่อให้ได้รับอิทธิพล ชื่อเสียง และความมั่งคั่ง แต่ยังพยายาม ลอบปลงพระชนม์หลายครั้ง และหลายชาติด้วย เมื่อใดก็ตามที่พระพุทธเจ้าทรงจุติ มาช่วยสัตว์ทั้งหลาย พระเทวทัตก็กลับชาติมาเกิด เป็นพลังอันชั่วร้าย ที่จะต่อต้านพระพุทธเจ้า และทำร้ายพระพุทธเจ้า เพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ สร้างเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียง ของพระพุทธเจ้าเสื่อมลง หรือ ชีวิตของพระองค์ตกอยู่ในอันตราย หรือเผชิญสถานการณ์ที่ร้ายแรง ถึงแก่ความตายอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างโหดร้ายหรือน้อยกว่า อาจารย์หลาย ๆ คนก็ประสบปัญหานี้ เช่นกัน บนดาวเคราะห์ดวงนี้ และดูเหมือนว่า มันจะแย่ลงไปอีกเพราะยิ่งมี ปีศาจมากเท่าไร หรือปีศาจหรือผีปรากฏขึ้น - ผีร้าย ผีก่อกวน ผีดุร้าย เหล่านั้น - ยิ่งมนุษย์เสื่อมทรามลง คุณภาพต่ำลง และปีศาจ ผีปีศาจ และผีก่อกวน ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ในโลกใบเดียวกัน และปีศาจ ผี และมารเหล่านี้ พวกมันมีอิทธิพล ต่อมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขา เลวลงมากขึ้นเรื่อย ๆ - ดังนั้น จึงห่างไกลจากพระเจ้า - และต้องเผชิญกับความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานทุกรูปแบบ และแม้กระทั่ง กลายเป็นปีศาจหรือผีเอง เพื่อทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น ด้วยคุณภาพต่ำ ๆ ที่พวกเขาทำให้ตัวเองเป็นดังนั้น ได้โปรด ใครก็ตามที่คุณรู้ว่าเป็นไปได้ โปรดเตือนพวกเขาอย่างอ่อนโยน บอกพวกเขาให้เป็นวีแกน อย่างน้อยกรรมฆ่าก็น้อยลง ร่างกาย จิตใจ ก็จะแข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้น และแข็งแรงขึ้น ในการรับมือกับและปัญหา ทางกาย และทางจิตของตนเอง เพราะปัญหาทางกาย บางครั้งก็ไม่ได้แย่ เท่าปัญหาทางจิต และปัญหาทางจิตใจ ปัญหาทุกประเภท เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า จะหลุดจากบ่วงมายา ความชั่ว และสภาพแวดล้อมรอบตัว สถานการณ์ ที่ไม่เอื้ออำนวย และพลังงานที่ไม่ดีได้อย่างไร มนุษย์เป็นผู้ที่ได้รับ ความสงสารอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม พระเจ้าจึงส่งนักบุญและพระบุตร ของพระองค์ลงมาช่วยเราเสมอ แต่ไม่ใช่ว่า เราทุกคนจะฟัง พวกเราส่วนใหญ่ไม่ฟัง นั่นเป็นสาเหตุที่โลกยังคง เป็นเช่นนี้อยู่ในปัจจุบัน และดูเหมือนว่าจะแย่ลงในบางครั้งดังนั้นเราจึงมีภัยพิบัติมากขึ้น ปัญหามากขึ้นในปัจจุบัน และสงครามจากประเทศหนึ่ง ไปอีกประเทศหนึ่ง เราไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปด้วยซ้ำ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ทราบ และแม้ว่านักบุญและนักปราชญ์ ผู้มีญาณทิพย์จะบอกเราว่า "ถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยง ปัญหามากกว่านี้ โปรดทำเช่นนี้ โปรดทำเช่นนั้น จงดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อย่าฆ่า อย่าขโมย” มนุษย์ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถฟัง สิ่งนั้นได้ และปฏิบัติตามหลักการ ง่าย ๆ เหล่านั้น เพื่อรักษาตนเอง ให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดี เป็นปกติ และเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ในทางตรงกันข้าม พวกเขาหาทุกสิ่ง มาใส่ร้ายอาจารย์ หรือทำให้พวกท่านได้รับอันตราย ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้Photo Caption: ทำให้พื้นที่ของคุณสงบลง!ก่อความเจ็บปวดและกรรมน้อยลง: พืชที่กินได้ ตอนที่ 3 จาก 5 ตอน
2024-04-28
รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ บางครั้งในฟาร์มหลายแห่ง พวกเขาทิ้งอาหาร ที่พวกเขาขายไม่ได้ เพราะถ้าพวกเขาแจกมันออกไป พวกเขากังวลว่า ราคาจะตกต่ำ และไม่มีใครจะจ่ายมากเท่านี้ หากอาหารมีให้อย่างล้นเหลือ แล้วราคาจะต่ำลง และพวกเขาไม่สามารถทำเงินได้ แต่ถ้าพวกเขาทิ้งอาหาร มันสิ้นเปลืองมากเช่นกัน มีการใช้แรงงานและงานเยอะมาก ใส่เข้าไปในฟาร์ม เพื่อผลิตอาหารบางอย่าง ผู้คนมากมายหิวโหยในทุกวันนี้ โดยเฉพาะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และภัยพิบัติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และใหญ่มาก แย่ลงกว่าเดิมมาก มีคนที่หิวโหยอีกมากมาย ถ้าเราสามารถจัดการได้มากกว่านี้ และให้อาหารนั้นไป แก่ผู้ที่เดือดร้อน - เพราะ พวกเขาต้องการอยู่แล้ว พวกเขาไม่มีเงินซื้อ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงหิว ดังนั้น แม้คุณจะมอบมันให้พวกเขา ราคาจะไม่ลดลงอีกต่อไปมันยากมากที่จะบอกใคร ๆ ให้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ฉันแค่หวังว่า บางคนจะฟัง และพยายามดำเนินชีวิต อย่างชอบธรรม รางวัลสำหรับสิ่งนั้น ไม่ใช่สิ่ง ที่เราคาดหวัง แต่มันจะมา และรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น อยู่ในใจของคุณ เพราะคุณจะรู้สึกมีความสุข คุณจะรู้ว่า คุณช่วยเหลือผู้อื่น แล้วคุณจะรู้ว่า คุณทำสิ่งที่ถูกต้อง และสมควรที่จะได้ชื่อว่า เป็นมนุษย์ ไม่ใช่ทุกคนที่ดูเหมือนมนุษย์ จะเป็นมนุษย์ มันเป็นเช่นนั้น บางคนก็เป็นครึ่งปีศาจ หรือส่วนใหญ่ เป็นปีศาจด้วยซ้ำและล่าสุดก็มีรายงาน ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่า พวกเขาพบว่า สมองของมนุษย์ โดยพื้นฐานแล้ว มันดีมาก อ่อนโยนมาก ใจดีมาก ใจกว้าง และมีความรักมาก เหมือนมีคุณสมบัติแบบนี้ อยู่ในนั้นแล้ว ต้องการที่จะ...อยู่เสมอ มันเหมือนกับว่ามันฝังอยู่ในสมอง ที่ผู้คนอยากจะทำอะไร เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และตัวพวกเขาเอง
