ข่าวประจำวัน – 30 มกราคม 2025

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พูดคุยทางโทรศัพท์ อย่าง "สร้างสรรค์" กับ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย (มังสวิรัติ) โดยเขาเน้นย้ำว่าอินเดียควรซื้อ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ผลิต ในอเมริกาให้มากขึ้นและ มุ่งสู่ความสัมพันธ์ทางการค้า แบบสองทางที่ยุติธรรม พร้อมทั้งเพิ่มความร่วมมือ ระหว่างทั้งสองประเทศใน อินโด-แปซิฟิก (รอยเตอร์ส)

อินเดียและจีนตกลง จะกลับมาบินตรงอีกครั้ง หลังจากหยุดไปห้าปี และอำนวยความสะดวกใน การแลกเปลี่ยนนักข่าว ส่งสัญญาณความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น (รอยเตอร์ส)

ญี่ปุ่นมอบทุนการศึกษา แก่เวียดนาม กว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาล เวียดนามรุ่นใหม่ เพื่อศึกษาต่อปริญญาโท และปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น ส่งเสริมการพัฒนา ของเวียดนามและกระชับ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ (บ่าวเหม่ย)

การวิเคราะห์: รัฐบาลทั่วโลกเปลี่ยน จากซ้ายไปขวา ในปี 2024-2025 ส่วนใหญ่ เกิดจากความล้มเหลว ของนโยบายฝ่ายซ้าย รัฐบาลฝ่ายซ้ายมักมุ่งเน้น ไปที่เป้าหมายในอุดมคติ เช่น ความหลากหลาย การรวมกันเป็นหนึ่ง และ โลกาภิวัตน์ ขณะเดียวกัน ก็ขยายโครงการของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ ทำให้ต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้น และทรัพยากรตึงตัว ซึ่งมักจะทำให้ความไม่เท่าเทียมกัน เลวร้ายลง ทำให้ชนชั้นนำ ทั่วโลกร่ำรวยขึ้น ขณะที่ชีวิตของคนจนและ ชนชั้นกลางกลับยากลำบากยิ่งขึ้น นโยบายการย้ายถิ่นฐานที่ เอื้อประโยชน์ต่อผู้อพยพ มากกว่าคนในท้องถิ่น ส่งผล ให้ระบบสวัสดิการมีการแข่งขันกันสูง และแออัด ส่งผลให้เกิด ความไม่พอใจเพิ่มมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม ขบวนการ ฝ่ายขวาจะมุ่งเน้นไปที่ ประเด็นสำคัญที่เป็นรูปธรรม เช่น การปกป้องอุตสาหกรรม ในประเทศ การลดการแทรกแซง ของรัฐบาล และการเสริมสร้าง เอกลักษณ์ประจำชาติ นโยบายเหล่านี้สะท้อน ถึงชนชั้นกลาง โดยเฉพาะผู้ที่รู้สึก ถูกละเลยหรือได้รับ อันตรายจากโลกาภิวัตน์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามในยูเครน และผลกระทบทางเศรษฐกิจ เป็นแรงผลักดันให้การเมืองฝ่ายขวา มีอิทธิพลมากขึ้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยสร้างสมดุลระหว่าง แนวทางที่เน้นอเมริกาเป็นอันดับแรก กับกลยุทธ์ระดับโลกที่เป็นรูปธรรม ซึ่งรวมถึงความพยายามในการรักษา สันติภาพในไต้หวันและยูเครน (โอ่นโงจีตั๋น)

ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนที่ นอร์ธแคโรไลนา สัญญาว่า จะให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง และให้คำมั่นกับคนในพื้นที่ว่า "เราจะไม่ถูกลืมอีกต่อไป" (ฟ็อกซ์นิวส์)

ประธานาธิบดีทรัมป์ลงพื้นที่ ภัยพิบัติจากไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย [สหรัฐอเมริกา] ช่วยจัดระเบียบการตอบสนอง ในระดับรัฐบาลกลาง และท้องถิ่น และให้คำมั่น กับเหยื่อว่า "รัฐบาลกลาง คอยอยู่เคียงข้างคุณ" หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์" (ชาร์จาห์ 24)

ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดโอกาสเจรจา โดยตรงกับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน รวมถึงการประชุมสุดยอด ทางการทูตที่อาจเกิดขึ้น โดยสานต่อความสัมพันธ์ ฉันมิตรและสร้างสรรค์ ตั้งแต่สมัยแรกของประธานาธิบดี (VTV.vn)

ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าปัญญาประดิษฐ์ ดีปซีค ของจีน "ควรจะเป็นเสียงเตือน" ให้บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ "มุ่งเน้น" อย่างจริงจังในการแข่งขัน หลังจากที่แอปของจีนได้ขึ้นมา อยู่อันดับ 1 ใน แอปสโตร์ของ แอปเปิ้ลอย่างกะทันหัน โดยให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับ แชตจีพีที ด้วยค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก (เอ็นบีซี)

รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก เป็น "อ่าวอเมริกา" อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะอนุรักษ์มรดก "อันล้ำค่า" ของตน (รอยเตอร์ส)

ประธานาธิบดีทรัมป์แต่งตั้ง แอนดรูว์ พุซเดอร์ อดีตซีอีโอ เป็นเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่าเขาจะทำหน้าที่ “ได้อย่างดีเยี่ยม” ในการเป็น ตัวแทนผลประโยชน์ของอเมริกา ใน “ภูมิภาคที่สำคัญ” แห่งนี้ (เอเอ)

สหรัฐฯ: เครือข่ายข่าว ฝ่ายซ้าย ซีเอ็นเอ็น เลิกจ้าง พนักงานหลายร้อยคน ขณะที่ การปรับโครงสร้างองค์กรใน ยุคประธานาธิบดีทรัมป์ เริ่มต้นขึ้น (มีเดียอิต)

วิเคราะห์ : กระบวนการอนุมัติ ให้ ตุลซี แกบบาร์ด (วีแกน) เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจาก ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงแห่งชาติ จะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่ใช่กลายเป็นการล่าแม่มด การต่อต้านที่เธอเผชิญ จากสมาชิกวุฒิสภาเป็นเพราะ ทัศนคติของเธอไม่สอดคล้อง กับสถาบันทางการเมือง แม้ว่าเธอจะมีคุณสมบัติที่ดี สำหรับงานนี้ก็ตาม สิ่งนี้บั่นทอนความยุติธรรม เพิ่มความไม่ไว้วางใจของประชาชน ต่อการปฏิรูปข่าวกรอง สร้างความไม่พอใจให้กับผู้แปรพักตร์ เช่น นางกาบบาร์ด ที่ออกจาก พรรคเดโมแครต และเสี่ยง ต่อความไม่มั่นคงทางการเมือง ของสหรัฐฯ (เดอะฮิลล์)

หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เริ่มลบการแนะแนว ดีอีไอ [ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวม] ออกจากเว็บไซต์ของพวกเขา หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งให้ใช้คุณสมบัติเพียงอย่างเดียว ในการจ้างงาน ของรัฐบาลกลาง (เอพี)

ศาสดาพยากรณ์ชาวอเมริกัน เรเวอเรนด์ แบรนดอน บิ๊กส์ แบ่งปันนิมิตเชิงพยากรณ์ สำหรับปี 2025 และปีต่อ ๆ ไป โดย พระเจ้าทรงเปิดเผยเหตุการณ์สำคัญ หลายประการ เช่น ก) ประธานาธิบดีทรัมป์จะ "ฝึกมังกรจีนให้เชื่อง" ผ่านการดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงที่คลองปานามา หยุดยั้งการแทรกซึม รัฐบาลสหรัฐฯ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ข) ประธานาธิบดีทรัมป์จะปราบพยศ เกาหลีเหนือและรัสเซีย โดยสร้างหน้าต่าง ให้คนทำงานของพระเจ้าสามารถ ช่วยเหลือวิญญาณได้มากขึ้น ค) ในแคนาดา การฟื้นฟูจะแผ่ขยาย จากชายฝั่งหนึ่งไปยังอีกชายฝั่งหนึ่ง หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ทรูโดถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการชดใช้กรรม จากสวรรค์ที่ปล่อยให้การทุจริต เข้ามาในรัฐบาลของเขา ง) การฟื้นฟูทางจิตวิญญาณ จะแพร่หลายไปทั่วทั้งยุโรป โดยที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสมาครง ถูกขัดขวางในความพยายาม ที่จะกำหนดระเบียบโลกใหม่ ที่เป็นปีศาจ จ) เกาหลีเหนือ คิม จองอึน และ น้องสาวของเขาจะถูกโค่นล้ม ซึ่งจะเป็นการเปิดประตู แห่งความรอด ให้กับประชาชนชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งพระเจ้า "ไม่เคยลืม" ฉ) ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเสริมสร้างพันธสัญญา ของอเมริกากับพระเจ้า ผ่านพันธมิตรใหม่กับอิสราเอล โดยสร้างความสัมพันธ์กับ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูใน ลักษณะเดียวกับบุคคลในพระคัมภีร์ อย่างเดวิดและโจนาธาน ซึ่งมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง ช) เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะพังทลาย แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะได้รับคำแนะนำ จากภูมิปัญญาเหนือธรรมชาติ ในการเริ่มสร้างเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือ จากการสร้างสกุลเงิน "อเมโร" ระหว่าง สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก ซ) ไต้หวันจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเหมือน "สีทองอันรุ่งโรจน์" เนื่องจากคำอธิษฐานเพื่อความรอด ของประชาชนได้รับการตอบสนอง ฌ) การโจมตีของผู้ก่อการร้าย จะเกิดขึ้นที่โตรอนโต [แคนาดา] เพนซิลเวเนีย และ นิวยอร์ก [สหรัฐอเมริกา] ควบคู่ไปกับภัยพิบัติ ทางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เช่น แผ่นดินไหวและไฟไหม้ (วิทยุหน๊ำ)

การวิเคราะห์: รัสเซลล์ วอต ผู้ได้รับการเสนอชื่อ จากประธานาธิบดีทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการ และงบประมาณ อาจเป็น บุคคลที่สำคัญที่สุดในรัฐบาลใหม่ ของประธานาธิบดี เนื่องจากเขาวางแผนที่จะ เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของ รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างจริงจัง แผนสี่ส่วนของนายวอต ประกอบด้วย: 1) ให้หน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติตามประธานาธิบดี: เขาเชื่อว่า หน่วยงานเช่นสำนักงาน ปกป้องสิ่งแวดล้อม [อีพีเอ] ควรรายงานต่อ ประธานาธิบดีโดยตรง ไม่ใช่ดำเนินการอย่างอิสระ 2) อนุญาตให้ประธานาธิบดี ปิดกั้นการใช้จ่าย: เขาต้องการให้ประธานาธิบดี สามารถหยุดหรือลดการใช้จ่าย ภาครัฐที่รัฐสภาอนุมัติ ซึ่งเป็นสิ่งประธานาธิบดี ที่สามารถทำได้ ก่อนปี 1974 3) ทำให้การไล่พนักงาน รัฐบาลออกง่ายขึ้น: นายวอตตั้งเป้า ที่จะทำให้การไล่ พนักงานรัฐบาลที่ทุจริต หรือไม่สอดคล้อง กับเป้าหมายของ ประธานาธิบดีออกง่ายขึ้น 4) การเปิดเผย ความลับของรัฐบาล: เขาต้องการให้การใช้จ่าย ของรัฐบาลและ ข้อมูลที่เป็นความลับ มีความโปร่งใสมากขึ้น รวมไปถึงการยุติ การตรวจสอบประวัติลับ ของตำแหน่งระดับสูง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มี จุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูรัฐบาล สหรัฐฯ ให้กลับคืนสู่รากฐาน ทางรัฐธรรมนูญ เป็นอิสระจาก "ฝ่ายที่สี่" ของ รัฐบาลที่ระบบราชการได้เปลี่ยนไป โดยใช้มาตรการที่กล้าหาญ เพื่อให้ประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้สืบทอดตำแหน่ง สามารถกำจัดการทุจริตใน "รัฐลึก" ที่คลุมเครือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เดอะนิวยอร์กไทม์ส)

เมืองอุลซาน [ประเทศเกาหลีใต้] จ่ายเงินให้ปู่ย่าตายาย เพื่อดูแลหลาน ๆ เพื่อสนับสนุนครอบครัวหนุ่มสาว ที่ด้อยโอกาส และ เพิ่มอัตราการแต่งงานและ การคลอดบุตร โดยปู่ย่าตายายได้รับ เงิน 210 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน สำหรับการดูแลทารก แรกเกิดหนึ่งคนเป็นเวลา 40 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้น เป็น 420 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน สำหรับการดูแลทารก แรกเกิดสามคน (ต่วยแฉ่)

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการนอนหลับ มากเกินไปอาจเพิ่ม ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ด้วยโรคไตเรื้อรัง โดย ผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 79 ปี ที่นอนหลับ 8-9 ชั่วโมงต่อคืน มีความเสี่ยงสูงถึง 41% เมื่อ เทียบกับผู้ที่นอนหลับ 7-8 ชั่วโมง (VTV.vn)

ระยะเวลาการนอนหลับที่เหมาะสม ในแต่ละวันตามช่วงอายุ: ทารกอายุ 4 ถึง 12 เดือน – 12 ถึง 16 ชั่วโมง [รวมเวลางีบหลับ] เด็กวัยเตาะแตะอายุ 1 ถึง 2 ปี – 11 ถึง 14 ชั่วโมง [รวมเวลางีบหลับ] เด็กอายุ 3 ถึง 5 ปี – 10 ถึง 13 ชั่วโมง [รวมเวลางีบหลับ] เด็กอายุ 6 ถึง 12 ปี – 9 ถึง 12 ชั่วโมง วัยรุ่นอายุ 13 ถึง 18 ปี – 8 ถึง 10 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป – อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน (มูลนิธิการนอนหลับ)

พลังงานแสงอาทิตย์แซงหน้า ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า ของสหภาพยุโรป เป็นครั้งแรก คิดเป็น 11% ของผลผลิตทั้งหมด ของกลุ่มในปี 2024 (เวียดนามพลัส)

เมืองเว้ [เวียดนาม] ขยายเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ สำหรับซาวลาหรือ "ยูนิคอร์น แห่งเอเชีย" ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้ สูญพันธุ์อย่างยิ่ง โดยเพิ่ม พื้นที่คุ้มครองเป็นกว่า 4,000 เฮกตาร์ (เวียดนามนิวส์)

จีนทดสอบกังหันลมลอยน้ำที่ ใหญ่ที่สุดในโลก ฉีหาง ซึ่งมีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาดว่า จะช่วยประหยัดถ่านหินได้ 25,000 เมตริกตัน และ ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 62,000 เมตริกตันต่อปี (วีเอ็นเอ็กซ์เพรส)

นักจักรวาลวิทยา ดร.เหงียน นัต มินห์ กลายเป็นชาวเวียดนามคนแรก ที่ได้รับรางวัลจักรวาลวิทยา บุคคาลเตอร์ จาก สมาคมดาราศาสตร์อเมริกัน โดยได้รับรางวัลอันดับที่สาม จากวิธีการวิเคราะห์ แผนที่กาแล็กซีสามมิติอันล้ำสมัย โดยสูญเสียข้อมูลน้อยที่สุด ซึ่งคาดว่าจะช่วยเร่ง ความพยายามในการวิจัย (แทงห์เนียน)

อินเดีย: เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ช่วยลูกแรดน้ำหนัก 700 กิโลกรัม ติดอยู่ในหนองน้ำ โดยอุ้มลูกแรดไว้บนไหล่ บนแผ่นไม้ วิดีโอ ที่กลายเป็นไวรัล (ดิอินเดียนเอ็กซ์เพรส)

กลุ่มกู้ภัยสัตว์ในจอร์เจีย [สหรัฐอเมริกา] รวมตัวกัน เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัด 136 ตัวที่ถูกยึดจาก โรงงานผลิตลูกสุนัขในเขตเพียร์ซ โดยเจ้าหน้าที่ บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งพบว่า สุนัขเหล่านี้อาศัยอยู่ใน "สภาพที่น่าสลดใจ: ถูกจำกัดอยู่ในกรงลวด ใช้ชีวิตอยู่ กลางอากาศหนาวเย็นทุกนาที ขนที่พันกันเปียก ไปด้วยปัสสาวะและอุจจาระ และไม่ได้รับการดูแลจาก สัตวแพทย์ขั้นพื้นฐาน" สมาคม คุ้มครองสัตว์แห่งแอตแลนตา เขียนไว้ (จอร์เจีย เร็คคอร์ดเดอร์)

ลอสแองเจลิส [สหรัฐอเมริกา]: ออสติน มูห์ส ผู้ช่วยเหลือ สัตว์ในชุมชน ช่วยชีวิตสัตว์ ได้มากกว่า 100 ตัวจากไฟป่า โดยได้รับความช่วยเหลือ จากทีมกู้ภัย 999 ซึ่ง ประกอบด้วยผู้ช่วยเหลือและ อาสาสมัครที่ทุ่มเท (พีเพิล)

เบงกาลูรู [อินเดีย] เตรียมเปิดศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ เพื่อช่วยเหลือและรักษา สุนัขและแมวจรจัดและถูกทิ้ง โดยตั้งเป้าเป็นเมืองแรก ในรัฐกรณาฏกะที่จะทำเช่นนี้ (เออร์เบิน เอเคอร์ส)

คำคมสะท้อนตนเอง ประจำวันนี้: “การรู้จักความมืดมิดของตนเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการจัดการกับความมืดมิด ของผู้อื่น” – ดร.คาร์ล จุง เอ็มดี